เที่ยวน่านไม่มีรถ แบกเป้เที่ยวน่าน พักผ่อนโฮมสเตย์
เที่ยวน่านไม่มีรถ ใครบอกว่าเที่ยวไม่ได้ ! วันนี้เราจะเลยพาทุกคนออกมาท่องเที่ยวกับความสงบ ความสโลไลฟ์ในจังหวัดน่านกัน แน่นอนว่าพูดถึงเมืองน่าน ใคร ๆ ก็ต้องหลงรักและอยากจะมาเที่ยวพักผ่อนกันอย่างแน่นอน มีทั้งวัดวาอารามให้กราบไหว้ มีคาเฟ่น่ารัก ๆ มีศูนย์รวมวัฒนธรรมต่าง ๆ และที่สำคัญคือมีวิวหลักล้านจากธรรมชาติ ภูเขาที่สวยงาม ใครมาก็เที่ยวก็ต้องหลงรักเมืองน่านกันทุกคน
แต่วันนี้บอกเลยว่าเราจะมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวแบกเป้ ให้กับหลาย ๆ คนที่เดินทางมาคนเดียว หรือใครที่อยากจะมาท่องเที่ยวน่านอย่างไรสำหรับคนไม่มีรถ เมืองน่าน 2 วัน 1 คืน ฉบับคนไม่มีรถ จะเที่ยวยังไงให้คุ้ม นอนพักที่พักน่านท่ามกลางลมเย็น ๆ แถมยังได้ชมวิวธรรมชาติสวย ๆ พร้อมแล้วมาลุยกันเลยยยย
ทริปนี้เราเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง หรือที่เรียกกันว่ารถทัวร์ แนะนำว่าให้เดินทางมาถึงที่น่านก่อน 10 นะทุกคน หรือเช้ากว่านี้ก็ได้ เพราะจะได้มีเวลาเดินเล่น เที่ยวชมในเมืองกันนาน ๆ เมื่อมาถึงขนส่งน่านกันแล้ว ก็แนะนำว่าให้นั่งวินแล้วแจ้งพิกัดพี่วินไปเลยว่าไปวัดภูมินทร์ เพราะนี่จะเป็นศูนย์รวมของชาวนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ แถมเดินเที่ยวไปยังสถานที่อื่น ๆ ได้อีกด้วย

ใครที่มาเมืองน่านแน่นอนว่าต้องมาวัดภูมินทร์ เพราะที่นี่มีพระอุโบสถจัตุรมุขหลังแรกของประเทศไทยที่ตรงใจกลางประดิษฐานจะมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ หันหน้า (พระพักตร์) ออกด้านประตูทั้งสี่ทิศ แน่นอนว่าเราจะได้ชมความงามของพระอุโบสถนี้ไม่ว่าจะเดินขึ้นบันไดทิศใด จะเห็นพระพุทธรูปทุกด้านนั่นเอง
อีกหนึ่งไฮไลท์ของวัดภูมินทร์ที่พลาดไม่ได้ก็คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังปู่ม่านย่าม่าน หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันในรูปภาพกระซิบรักบันลือโลก และก่อนกลับใครที่อยากได้ของที่ระลึกทางวัดก็มีให้ได้เลือกกันมากกมาย ส่วนตัวเราก็ได้ซื้อโปสการ์ดรูปกระซิบรักบันลือโลกแล้วเขียนส่งกลับมาที่บ้าน

ใกล้ ๆ กันกับวัดภูมินทร์ก็ยังมีอีกหนึ่งสถานที่สำคัญของจังหวัดน่าน นั่นก็คือ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน โดยภายในนั้นจะมีการจัดแสดงศิลปะ โบราณวัตถุ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ก็จะมีซุ้มลีลาวดี ที่ขึ้นเป็นแถวเรียงราย และมีกิ่งก้านที่โน้มเอียงเข้ากัน จนกลายเป็นเหมือนอุโมงค์ลีลาวดีที่สวยงามมาก ๆ เรียกได้ว่าซุ้มลีลาวดีนี้เป็นอีกซิกเนเจอร์ของจังหวัดน่านเลยก็ว่าได้ ใครมาน่านต้องมาถ่ายรูปที่นี่กันแถบทุกคน !


ถัดมานั้น ฝั่งตรงข้ามพิพิธภัณฑ์ฯ ก็จะมีอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงามมาก ๆ เดินไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว จะพบกับวัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน นับเป็นปูชนียสถานสำคัญ และมีพระวิหารหลวงขนาดใหญ่ที่สร้างตามสถาปัตยกรรมทางภาคเหนือ ด้านหน้าจะมีสิงห์คู่ยืนอยู่ตรงเชิงบันได สง่างามสุด ๆ

เมื่อไหว้พระขอพรกันมาแล้ว แถมยังได้รับความรู้จากพิพิธภัณฑ์ และได้รูปสวย ๆ จากซุ้มลีลาวดี หลังจากนี้เราจะชวนกันมานั่งรถรางชมเมืองเก่าน่านกัน ใครที่กลัวหิวระหว่างชม ก็สามารถแวะซื้อข้าวหลามเมืองน่าน รองท้องก่อนได้น้าา >< จะมีขายแถว ๆ หน้าวัดภูมินทร์ หรือด้านข้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯนี่แหละ
สำหรับใครที่อยากจะนั่งรถรางชมเมืองเก่านั้น ก็จะต้องมาทำการซื้อบัตรกันก่อน และรอถึงเวลาก็ขึ้นรถนั่งชมกันเพลิน ๆ ได้เลย ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางประมาณ 1 ชั่วโมง และจะมีเจ้าหน้าที่บรรยายให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ บนรถรางตลอดเส้นทาง จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดการเดินทางนั้น ก็จะเป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่านที่เดิม


นอกจากสถานที่ที่เรานำมาแชร์กันนี้แล้ว ก็ยังมีร้านอาหาร มีคาเฟ่ มากมายที่อยู่ใกล้ ๆ กัน เดินเล่นกันชิว ๆ หาของกินกันแบบเพลิน ๆ กันได้ และอย่างที่บอกนอกจากจะมาชมเมืองน่านกันแล้ว เราก็จะมาพักผ่อนโฮมเสตย์กันด้วย แน่นอนว่าเราก็จองที่พักไว้สำหรับพักผ่อนยามค่ำคืนกัน ซึ่งนัดกับพี่เจ้าของที่พักไว้ว่า ให้มารับบริเวณหน้าวัดภูมินทร์หน่อย เพราะเราไม่มีรถส่วนตัว พี่เจ้าของใจดีมาก ๆ ><
เที่ยวกันมาเหนื่อย ๆ แล้ว ขอขายที่พักที่เรามาพักผ่อนกันหน่อยน้าาา เราจองที่พักเป็นโฮมสเตย์น่าน ชื่อว่า “เริงใจโฮม” ที่จองที่นี่ไว้เพราะว่าหลังจากได้ไปแอบส่องเพจเค้ามา ก็เห็นว่าที่นี่มีที่พักดูเป็นส่วนตัวสุด ๆ อยู่ท่ามกลางธรรมาชาติ วิวต้นไม้ อากาศต้องดีมาก ๆ แถมยังมีน้องหมาน้องแมวให้ได้เล่นอีกด้วย ที่สำคัญยังมีกิจกรรมเวิคช้อปน่าลองสุด ๆ เลยตัดสินใจเลือกมาพักที่นี่แหละ แถมยังเหมาะสำหรับคนที่มาคนเดียว คนที่ไม่มีรถส่วนตัว พี่เจ้าของบอกว่ามีบริการรับ-ส่ง หรือใครที่อยากมาเองก็ไม่ไกล อยู่ห่างสนามบินน่านแค่ 10 นาที


และเมื่อมาถึงที่พักแล้วรู้สึกว้าวสุด ๆ เพราะที่นี่บรรยากาศดีมากกกกก มองไปทางไหนก็เห็นวิวสีเขียวจากต้นไม้ รับลมเย็น ๆ แค่นี้คุ้มค่ากับการมาพักผ่อนสุด ๆ แถมยังมีwelcome drink สูตรพิเศษอีกด้วย และมาที่นี่ไม่ต้องพกอะไรมาเลย เพราะที่พักมีของใช้ต่าง ๆ เตรียมไว้ให้หมดแล้ว ทั้งผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม เป็นต้น และมื้อเย็นของที่นี่ ก็จะจัดเป็นชุดปิ้งย่างแบบจุก ๆ พร้อมพริกหม่าล่าสุดแซ่บ และหลังจากซัดปิ้งย่างกันพุงกางแล้ว ก็ได้เวลานอนพักซักที บรรยากาศตอนกลางคืนดีมาก เงียบสงบ เป็นส่วนตัวสุด ๆ บอกเลย



ตื่นเช้ามาก็ได้คุยเล่นกับพี่หนิง (พี่เจ้าของที่พัก) จนรู้ว่าที่นี่นอกจากจะเป็นที่โฮมสเตย์แล้ว ก็ยังเป็นเหมือนสตูดิโอ ที่มีกิจกรรม workshop มากมาย ทั้งมัดย้อมชิโบริ, รำดาบป้องกันตัว, ทำผลิตภัณฑ์สปา และระบายสีน้ำ กิจกรรมที่ทำได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ พร้อมของฝาก homemade จากที่พัก และบางที่พี่หนิงก็รับบทวิทยากรสอนน้อง ๆ ตามแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ อีกด้วย
คุยกับพี่หนิงเสร็จ ก็เดินชมวิว เล่นกับน้องหมา น้องแมวของที่พักกันเพลิน ๆ แล้ว เมื่อถึงเวลากลับพี่หนิงก็ขับรถมาส่งเราที่ขนส่งน่าน เผลอแป๊บเดียวก็ได้เวลากลับมาทำงานกันต่อแล้ว แต่ถึงจะมีเวลาแค่วันสองวัน บอกเลยว่าการมาเที่ยวน่านแบบไม่มีรถส่วนตัว ก็ทำได้เหมือนกัน แถมยังสนุกและประทับใจกับที่พักมาก ๆ วิวดีอากาศดีจนหายเหนื่อยเลย


และแน่นอนว่าการจะออกเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดแต่ละครั้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สะดวกสบายสำหรับใครที่มีรถส่วนตัวในการเดินทาง แต่ปัญหาในการเดินทางจึงมักจะเป็นข้อกังวลสำหรับใครที่ไม่มีรถส่วนตัว ขับรถยนต์ไม่ได้ จึงอาจทำให้ไม่อยากจะเดินทางไปท่องเที่ยวนั่นเอง แต่ปัญหานี้จะหมดไปสำหรับใครที่ไม่กล้า ก็ลองท่องเที่ยวตามรอยเราก่อนได้เลย รับรองไม่มีผิดหวังแถมยังแฮปปี้สุด ๆ
ป.ล. ก่อนไปขอฝากเพจที่พักไว้หน่อยน้าาา ที่นี่เค้าดีจริง ๆ อยู่อย่างน่าน & เริงใจโฮม ที่พักน่าน โฮมสเตย์น่าน ของฝากน่าน ใครที่อยากหาสถานที่พักผ่อน เป็นโฮมสเตย์เล็ก ๆ กลางป่า แต่ใกล้เมืองบอกเลยห้ามพลาด ! ที่นี่เค้าดีจริง ๆๆๆๆๆ